แนะนำการต่อโมเดลกันดั้ม
วิธีการเลือกซื้อกันพลาแท้
- ดูว่าตรา "BANDAI" ว่าสะกดถูกมั้ย ระวัง!!!อาจจะเจอเป็น Sticker ติดทับคำว่า1/100 หรือ Bendi นะครับ
- ตรวจเช็ค ให้แน่ใจว่าเป็นตัวที่ต้องการ ดูชื่อให้ดี โดยเฉพาะเรื่องเกรดครับดูได้ในหัวข้อเกรดของกันพลาครับ
- เช็คใบต่อว่าตรงกับโมเดลที่ซื้อมั้ย หน้าครบหรือเปล่า
- ดูสภาพพลาสติกว่ากรอบหรือยังสีถูกต้องมั้ย ถ้ากรอบสีจะเพี้ยนแล้วบิดริมๆแผงผิวจะแตกครับ
- นับจำนวนแผงในใบต่อและในกล่องว่าตรงกันหรือไม่
- ตรวจเช็คพลาสติกบนแผง มีชิ้นที่หลุดจากแผงมั้ย ชิ้นที่หลุดยังอยู่ในถุงมั้ย มีชิ้นไหนแตกมั้ย
- ตรวจความสม่ำเสมอของสี รอยบุ๋มที่เกิดจากความผิดพลาดในการฉีด และรอยถลอกของเคลือบ
- ตรวจสอบประเภทและสภาพดีคอล(ดูหัวข้อดีคอล และสติ๊กเกอร์)
- ตรวจสอบราคาตามความเหมาะสมและความพอใจ(ดูหัวข้อราคาและเรต)
เกรดของกันพลา
- Speed Grade 1/200 SG
Grade ใหม่ล่าสุดจากทาง Bandai มีการลงสีมาให้แล้วบางส่วน ชิ้นส่วยน้อยต่ดง่าย เพิ่งมีออกมาไม่กี่ตัว
- First Gade(FG, No Grade, Ancient Grade, 1/144) 1/144
เกรดนี้โดยทั่วไปจะไม่มีการแยกสีมาให้บางทีอาจจะเลวร้ายขนาดทั้งตัวเดียวสีเดียวเลยก็มีครับ ขยับศอกกับเข่าไม่ได้ด้วย
มือใหม่ควรเลี่ยง
- Gundam Seed 1/144 1/144
คล้ายๆกับFGจะต่างกันตรงที่สีจะครบกว่าครับ แล้วเนื้อพลาสติกก็ดีกว่าด้วย
- High Grade(HG) 1/144
ขนาดจะเท่ากับ First Grade แต่รายละเอียดจะมากกว่า โดยจะมีสีมาให้เกือบเหมือนจริง แต่บางชิ้นอาจจะมีมากกว่า1สี
- High Grade Gundam Seed(HG seed) 1/144
ทั่วไปก็เหมือนHGครับ แต่เนื้อพลาสติกจะดีกว่า
- High Grade Universal Century(HGUC) 1/144
เป็นการปรับปรุงHGขนานใหญ่จนต้องเปลี่ยนชื่อไปเลยเพื่อใช้แยกแยะ โดยปรับปรุงทั้งเนื้อพลาสติก การแยกสี การขยับ รูปร่างระบบ และระบบแปลงร่าง
- High Grade 1/100(HG 1/100) 1/100
มักจะเป็นพวกภาคเสริมทั้งหลายเช่นX, Wing, G ตัวใหญ่แต่ฉีดพลาสติกแบบแบ่งชิ้นประกบ ขาทั้งท่อนก็จะมีสีเดียว ใช้Stickerซะเยอะ เหมาะแก่การเอามาฝึกบังพ่น
- High Grade - EX, Big Scale, Real Detail(HG-EX) 1/60
อันนี้ถ้าไม่มีที่เก็บก็อย่าเอาเลยครับ เพราะใหญ่และบอบบางมาก รายละเอียดเกือบเท่าMGเลยแต่ไม่มีโครงใน แล้วพลาสติกก็บางมากอีกต่างหากตกเก้าอี้ก็เป็นเสี่ยงๆแล้วในขณะที่ MG หรือPG ยังสบาย
- Gundam Seed 1/100 Gundam OO 1/100(Seed Grade, OO 1/100) 1/100
พัฒนามาจาก HG 1/100 นิดหน่อยครับ โครงสร้าง การแยกสี และพลาสติกดีกว่าเล็กน้อยครับ
- Master Grade(MG) 1/100
รูปร่างสมส่วน พลาสติกดี แยกสีถูกต้อง มีโครงใน โครงสร้างแข็งแรง ข้อเสียคือ แพง และ ขยันออกมากครับ จะประกอบยากซักหน่อย ถ้ามือใหม่เอามาฝึกทำสีอาจจะมีมึนกันได้ครบ
- Perfect Grade(PG) 1/60
รายละเอียดครบถ้วนครับ แทบจะสร้างตามมาขับได้เลย(เวอร์ไปๆ) บางทีรายละเอียดมากกว่าในการ์ตูนอีก ชิ้นเยอะมากๆ ถ้ายังมือใหม่ก็อย่าเพิ่งเลยครับ หาตัวอื่นมาลองมือก่อนซัก 2-3 ตัว
- SD G-Generation, SD BB, SD Musha(SD, BB) No Scale
อ้วนเตี้ยล่ำแต่น่ารัก(เหมือนคนเขียน) BB#no.ต่ำๆ จะแยกสีไม่ค่อยดีฮะ ตัวใหม่ๆสีแยกดีมากๆครับบางทีดีกว่าFGอีก ราคาก็ถูกเหมาะแก่การเอาไปให้เด็กต่อเล่นครับ(เอาไปจีบสาวก็ได้ผลนะ)
- Real Gade (RG) 1/144
เป็นไลน์ล่าสุดที่บันไดสร้างขึ้นมา Real Grade เป็นการรวมเทคโนโลยีของ HG + MG + PG เข้าด้วยกัน ให้อยู่ในสเกล 1/144 จุดขยับและรายละเอียดเยอะ เหมือน MG/PG ที่ถูกย่อส่วนให้เป็นสเกล 1/144
ราคาและrateของกันพลา
วิธีดูราคาในหน่วยเยน
- ราคาหน่วยเยนจะปรากฎอยู่บนกล่อง2แห่งคือ
1) เหนือบาร์โคท ตำแหน่งนี้จะปรากฏอยู่ทุกกล่องของผลิตภัณท์ โดยจะเป็นชุดตัวเลขเหนือแถบบาร์โคท เลขราคาคือตัวเลขชุดสุดท้าย
เช่น zzzz - yyyy - xxxx ราคาคือ xxxx เยนนั่นเอง
จากรุปจะเห็นว่าราคาเยนคือ2800เยน
2) ต่อท้ายรหัสสินค้าบริเวณข้างกล่อง ในตำแหน่งนี้จะมีบางกล่อง(กล่องใหม่ๆ)เท่านั้น โดยจะเป็นชุดตัวเลข2ช่วง ช่วงแรกคือรหัสสินค้า ช่วงหลังคือราคา
เช่น yyyyyy - xxxx ราคาคือ xxxx รหัสสินค้า คือ yyyyyy
- วิธีดูราคาจาก Catalog
Catalog แบ่งเป็น3 version ได้แก่ Japan, U.S.A., Thai ของญี่ปุ่นจะบอกราคาเกินมา5% U.S.A.จะบอกราคาที่ถูกต้อง ไทยจะไม่มีราคา
catalogเล่มล่าสุด

ราคาอยู่ในวงสีแดง

- วิธีดูราคาจากเวป
1) http://www.1999.co.jp/eng/gundam/ สามารถsearchสินค้าได้โดยใสชื่อลงในชื่อแล้วกด Search
เราจะได้ชุดข้อมูลออกมาดังนี้
โค๊ด: [Select]
Strike Freedom Gundam(SD) Day released : Late Mar., 2006
Company : Bandai Sold Out...
Series : BB-288
Scale : Non
Price : 600 yen Our price : 570 yen
ราคาที่เราจะนำมาใช้คือ Price ซึ่งก็คือ600เยนนั่นเองรูปตัวอย่างหน้าจอเวปwww.1999.co.jp

2) http://www.dalong.net/ Dalong จะมีจุดเด่นตรงที่มีการreviewและตารางข้อมูลโมเดล
ขั้นตอนการเปิดดูข้อมูล
เราจะดูราคาได้โดยเริ่มจากเลือกเกรดของโมเดล(1) --> เปลี่ยนภาษา(2) --> เรียกรายการข้อมูล

จะได้ตารางดังรูปราคาจะอยูในวงกลมสีแดง
วิธีการคิดเรตราคาจากหน่วยเยน
คำว่าเรตหมายถึงอัตราของราคาขายหน่วยบาทยึดตามราคาหน่วยเยน โดยแต่ละร้านจะกำหนดเรตของตัว
เอง เช่น ร้านJ(นามสมมุติ)จะกำหนดเรตไว้ที่ 0.4 แต่ร้านC(นามสมมุติ)จะกำหนดที่0.35 ร้านL(นามสมมุติ)กำหนดที่0.36
แต่ร้านโดยทั่วไปจะกำหนดราคาสูงหรือต่ำกว่า 0.4 เล็กน้อย
โค๊ด: [Select]
ราคาในหน่วยบาท = ราคาหน่วยเยน x เรต
อัตราแลกเปลี่ยนเงินเยนถ้าจะฝากเพื่อซื้อแล้วไม่รู้ว่าจะดูราคาจากไหนก็สามารถดูได้จากเวปhttp://x-rates.com/d/THB/JPY/graph30.html
ตอนเขียน(11-Jan-2007)อัตราแลกเปลี่ยนอยู่ที่ 0.297618บาท/เยน
Decal & Sticker
1.Foil Stickerเป็นสติ๊กเกอร์พื้นฐานของกันพลาก็ว่าได้ครับ เพราะว่ามีทุกตัว อย่างน้อยก็ตรงตา และ main camera
มีลักษณะเป็นสติ๊กเกอร์พื้นสีเงิน(ตัวเก่าๆจะสีขาว)ติดบนกระดาษสีเหลือง
2.Clear Stickerแถมมากับ Master Grade จะเป็นลายเล็กน้อยๆบนตัวหุ่น จะเป็นสติ๊กเกอร์ใสๆติดอยู่บนพื้นสีเหลือง
เวลาจะนำมาใช้ควรตัดให้ใกล้ลายมากที่สุด
3.Water Decalแถมมากับโมเดลกลุ่ม Evangelion สำหรับกันดั้มต้องซื้อแยก ลักษณะจะเป็นลายละเอียดเล็กของหุ่น พิมพ์มาบนกระดาษสีเขียว
วิธี ใช้คือตัดส่วนที่ต้องการนำไปแช่น้ำแล้วนำไปวางบนตัวดมเดลแล้วเลื่อนกระดาษ รองออก (รายละเอียดกรุณาติดตามจากกระทู้ที่เกี่ยวกับดีคอลโดยเฉพาะ)
วิธี สังเกตว่าเป็นสติ๊กเกอร์หรือดีคอลน้ำ ให้ยกขึ้นส่องโดยวางแผ่นดีคอลให้ทำมุมเกือบระนาบกับระดับสายตา ดีคอลน้ำจะนูนออกมาจากกระดาษเล็กน้อย
หรือลองเขี่ยๆมุมดูถ้าเป็นสติ๊กเกอร์มุมจะลอกแต่ถ้าเป็นดีคอลจะเป็นกระดาษแผ่นเดียว
อีกวิธีนึงคือลองตัดยี่ห้อไปจุ่มน้ำถ้าจุ่มแล้วยกขึ้นมามันแห้งแสดงว่าเป้นสติ๊กเกอร์ ส่วนดีคอลน้ำจะเหนียวๆนิดๆเหมือนแป้งเปียกจางๆ
4.Dry Decalแถมมากับ Master Grade เป็นลายบนแผ่นพลาสติกใสๆที่จะใส่มาพร้อมกระดาษไข1แผ่น
วิธี ใช้คือตัดส่วนที่ต้องการนำมาวางบนตัวโมระวังกลับด้านนะครับแล้วเอาเทปกาวยึด ไว้ให้แน่น แล้วหาอะไรแข็งๆมาขูดเพื่อให้ลวดลายติดลงไปบนตัวโม
*****************************
อ่านภาคสองต่อ โดยคุณ zealotzephyr http://www.thaigundam.com/forum/index.php?topic=8568.0
1. ต่อดิบ (ประกอบเป็นตัว)

ขั้นตอนแรกถือว่าเป็นจุดเริ่มต้นในการต่อหุ่น จากที่มาเป็นแผงชิ้นส่วน แล้วแกะชิ้นส่วนที่ต้องการ นำออกมาต่อเป็นชิ้นส่วนที่สมบูรณ์ ดูเหมือนจะไม่มีอะไรซับซ้อน แต่ขั้นตอนนี้ถือว่าสำคัญมาก โดยความยากไม่ได้อยู่ที่ขั้นตอนประกอบ แต่จะอยู่ตรงการแยกชิ้นส่วนออกจากแผง ซึ่งถ้าคนที่ไม่รู้วิธีอาจจะใช้มือเด็ดชิ้นส่วนออกจากแผงแบบบ้านๆเลย แต่ถ้าทำแบบนั้นอาจจะทำให้ชิ้นส่วนเกิดการเสียหายและเป็นตำหนิทำให้ชิ้นงาน ไม่สวยได้
เทคนิคการแยกชิ้นส่วน
อุปกรณ์ที่สำคัญคือคีมตัดแบบมีคม ไม่ใช่คีมตัดลวดนะครับ หรือถ้าหาคีมไม่ได้จริงๆสามารถใช้กรรไกรตัดเล็บแทนได้ โดยจังหวะแรกที่ตัดให้เว้นระยะออกห่างจากชิ้นงานเล็กน้อย พอแยกชิ้นส่วนออกมาจากแผงแล้วค่อยใช้มีดหรือตะไบ ตัดแต่งส่วนที่เกินมาออกไป ก็จะได้ชิ้นงานที่เรียบร้อยสวยงามพร้อมประกอบตามแบบ

เว้นระยะห่างจากชิ้นงานประมาณนี้ แล้วค่อยตัด

ใช้คัทเตอร์ หรืออาร์ตไนท์ เก็บชิ้นส่วนที่เกินมาออกไป
ตัดชิ้นส่วนแล้วนำมาประกอบตามแบบ จนสำเสร็จเป็นตัวแบบนี้ ได้ไม่ยาก

ด้วยเทคนิคที่ว่ามาก็น่าจะช่วยไดให้สามารถประกอบหุ่นออกมาเป็นตัวได้ สำเร็จแบบนี้ แต่ถ้าจบผลงานที่เท่านี้นักต่อกันพลาเขาเรียกว่าเป็นแค่การต่อดิบเท่านั้น ซึ่งยังมีเทคนิคที่สามารถทำให้กันดั้มของเราสวยขึ้นได้อีก ไปดูต่อกันเลย
2. ปิดรอยแผล
หลังจากประกอบเป็นชิ้นงานเสร็จแล้ว อาจจะมีแผลบางจุดที่เกิดจากความผิดพลาดในการตัด หรือเนื้อพลาสติกขึ้นฝ้าขาวเพราะการตัด ทำให้งานออกมาไม่สวย ก็สามารถใช้กระดาษทรายน้ำ แบบละเอียด ขัดให้ชิ้นงานเรียบเนียน ซึ่งถ้าเป็นแผลลึกแนะนำให้ใช้กระดาษทรายเบอร์ 400 ขัดแผลออกไปก่อน แล้วค่อยใช้กระดาษทรายเบอร์ 1000 ขัดเพื่อให้พื้นผิวเรียบเนียนอีกที

วิธีการใช้กกระดาษทรายจำเป็นต้องขัดในระหว่างที่ชิ้นงานและกระดาษทรายเปียกน้ำ จะดีที่สุด
3. ตัดเส้น (วาดลาย)

หลังจากประกอบหุ่นออกมาเป็นตัวแล้วให้ลองสังเกตลวดลายที่เป็นเส้นลึกลงไป ตามตัวหุ่น ซึ่งการจะทำให้ผลงานของเราสวยขึ้นก็สามารถทำได้โดยการย้ำลวดลายบนตัวหุ่นให้ เด่นชัดขึ้นโดยการใช้ปากกาสีดำวาดทับลงไปบนลวดลายนั้น แต่ก็ต้องอาศัยเทคนิคเฉพาะช่วยทำให้ผลงานออกมาสวยงาม
เริ่มจากปากกาที่จะใช้ตัดเส้น แนะนำว่าให้หาปากกา GUNDAM MARKER ที่มีขายที่ร้านที่เราซื้อหุ่นมานั่นเอง โดยปากกาชนิดนี้จะมี 2 สูตรคือ
1. สูตรทินเนอร์ : ใช้เหมือนปากกาหมึกซึมทั่วไป สามารถลากเส้นวาดลวดลายได้เลย ลบรอยเลอะด้วยยางลบดินสอ
2. สูตรน้ำมัน : เป็นปากกาแบบใหม่ที่ทำขึ้นสำหรับต่อกันพลาโดยเฉพาะ ใช้งานโดยกดหัวปากกาแล้วหมึกจะไหลไปตามร่องนั้นตามแรงโน้มถ้วง ลบรอยที่เลอะออกมาด้วยน้ำมันรอนสัน
การเลือกใช้ก็เลือกตามวิธีที่ถนัดได้เลย
การตัดเส้นต้องอาศัยทักษะงานศิลปะพอสมควร แต่ถ้าเส้นเลอะออกมา สามารถลบส่วนที่เลอะออกมาได้โดยใช้ยางลบที่ใช้ลบดินสอธรรมดา นำมาลบรอบหมึกได้ แต่ถ้ารอยหมึกอยู่ในจุดที่เข้าถึงยาก ให้ใช้คัทเติลบัท ที่เราเอาไว้ใช้เช็ดหูนำมาชุบน้ำยาทำความสะอาดCD หรือน้ำมันรอนสัน ให้พอชุ่มแล้วใช้เช็ดรอยเลอะของหมึกได้เช่นกัน น้ำยาทำความสะอาด CD หาซื้อได้ที่ร้านหนังสือซีเอ็ด SE-ED
ลองเปรียบเทียบผลงานก่อนและหลังตัดเส้น มีความแตกต่างกันมากพอสมควร


4. ติดสติกเกอร์

ภายในกล่องกันพลาที่เราซื้อมาจะแถมสติกเกอร์สำหรับตกแต่งหุ่นของเราให้สวยงามมาด้วย โดยสติ๊กเกอร์จะแบ่งได้ 4 ประเภทด้วยกันคือ
- สติ๊กเกอร์ธรรมดา

วิธีการติดก็ไม่ยาก ก็เหมือนกับสติ๊กเกอร์ทั่วๆไปคือแกะแล้วติด แต่เทคนิคติดให้สวยคือการใช้มีดอาร์ตไนท์ช่วยย้ำรอยก่อนลอกออกมาใช้ เพื่อป้องกันการฉีกขาด แล้วใช้มีดอาร์ตไนท์ช่วยทาบ ในระหว่างติดสติกเกอร์ไปบนชิ้นงานจะช่วยให้ได้ตำแหน่งที่ตรงมากขึ้น
-สติ๊กเกอร์ฟิล์ม

เป็นสติ๊กเกอร์ลวดลายที่วางอยู่บนพื้นใส มีความบางกว่าสติกเกอร์ทั่วๆไป หลังจากติดไปบนชิ้นงานแล้ว ถ้ามองผ่านๆแทบจะกลืนเป็นเนื้อเดียวกับชิ้นงานไปเลย แต่ต้องระวังเพราะสติ๊กเกอร์ฟิล์มจะบอบบางกว่าแบบทั่วๆไป ขอแนะนำว่าให้ใช้มีดอาร์ตไนท์ช่วยระหว่างติดจะดีกว่า
- สติ๊กเกอร์ขูด (ดีคอล)

เป็นสติ๊กเกอร์แบบที่บางและให้รายละเอียดที่ดีที่สุดแต่แลกกับขั้นตอนการ ติดที่ยุ่งยากที่สุดเช่นกัน เริ่มจากใช้กรรไกรหรือคัทเตอร์ตัดลายที่จะติดออกมาจากแผ่นใหญ่ก่อน แล้วนำลายด้านที่เป็นฟิล์มแปะเข้ากับสก๊อตเทปใส แล้วนำไปทาบเข้ากับชิ้นงานให้ตรงตำแหน่ง แล้วค่อยขูดลายให้แนบกับชิ้นงาน แล้วค่อยๆแกะเทปใสออกจากชิ้นงาน ก็เป็นอันเรียบร้อย

- สติ๊กเกอร์น้ำ (ดีคอล)

เป็นสติ๊กเกอร์แบบที่บางและให้รายละเอียดที่ดีที่สุดและติดง่ายกว่าแบบ ขูด เริ่มจากใช้กรรไกรหรือคัทเตอร์แยกลายที่จะติดออกมาจากแผ่นใหญ่ก่อน แล้วนำไปลอยในน้ำ รอประมาณ 1 นาที แล้วค่อยใช้คีมจับสติ๊กเกอร์ออกมาซับน้ำ แล้วนำไปทาบกับชิ้นงาน แล้วใช้ คัทเติลบัท เขี่ยลายออกมาบนชิ้นงานแล้วซับน้ำ รอให้แห้งเป็นอันเสร็จเรียบร้อย
5. พ่นสีเคลียเก็บงาน
เมื่อผ่านขั้นตอน ตัดเส้น และติด สติ๊กเกอร์ ไปแล้ว หากทิ้งผลงานไว้แบบนั้นเป็นเวลานานอาจทำให้รายละเอียดที่อุส่าทำมาเกิดการ หลุดลอกได้ ขั้นตอนสุดท้ายในการต่อกันพลาจึงควรจบด้วยการใช้ สีกระป๋องสเปรย์ พ่นเคลือบทับไปอีกที่เพื่อปกป้องรายลเอียดชิ้นงานที่อุส่าทำมาให้ติดแน่นทน นาน โดยสีที่แนะนำให้ใช้ควรจะเป็นแบบ Fat Clear หรือเคลียด้าน ยี่ห้อที่แนะนำคือของ TOP COAT สูตรน้ำที่มีความปลอดภัยกว่าแต่มีราคาสูงเพราะเป็ของญี่ปุ่น หรือจะใช้สูตรทินเนอร์แนะนำให้ใช้ของ Layland เพราะไม่กัดเนื้อพลาสติก สามารถหาซื้อได้ที่ร้านขายอุปกรณ์ก่อสร้างทั่วไป (ยี่ห้อนี้บนห้างไม่มีขาย)

เทคนิคการพ่นถ้าให้ดีที่สุดควรแกะชิ้นงานที่ประกอบแล้วออกมาให้เป็นชิ้น ส่วนย่อยให้มากที่สุด เพื่อให้สีที่พ่นออกมาสัมผัสกับพื้นผิวได้ทั่วถึง แต่สำหรับคนขี้เกียจอย่างผมแค่แยกพ่นเป็นส่วน หัว ลำตัว แขน ขา ปีก ก็ถือว่าโอเคแล้ว โดยระหว่างพ่นให้ใช้ไม้เสียบลูกชิ้น เสียบติดกับชิ้นงานจะทำให้พ่นสีโดนชิ้นได้ทั่วถึงชึ้น
หลังจากพ่นสีชิ้นงานเสร็จแล้วก็นำมาเสียบปักไว้กับกล่องกระดาษ หรือเศษโฟมที่พอหาได้ เพื่อรอให้ชิ้นงานแห้งสนิทก็เป็นอันใช้ได้

เปรียบเทียบชิ้นงานที่พ่นเคลียด้าน สีพลาสติกและรายละเอียดที่เราทำไว้จะโดดเด่นขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด แต่กับชิ้นที่ไม่พ่นจะมีความเงาของพลาสติกอยู่ มองเห็นความก๊องแก๊งแบบพลาสติกชัดเจน

เปรียบเทียบผลงานต่อดิบธรรมดา กับ ผลงานที่ผ่านการตัดเส้น ติดดีคอล พ่นเคลีย ดูสวยขึ้นบ้างไหม

บทความตอนนี้น่าจะเป็นเทคนิคพื้นฐานที่ช่วยให้นักต่อกันพลามือใหม่ได้ผล งานที่สวยงามขึ้นพอสมควร ในโอกาสหน้าทีมงานคงได้ทำบทความตอนที่ 2 เพื่อแนะเทคนิคที่มากกว่านี้ในเรื่องการ เดินลายเพิ่มดีเทล การทำสี การเสริมชิ้นส่วน(พุตตี้) สุดท้ายขอให้สนุกกับการต่อกันพลานะครับ
ที่มาhttp://www.metalbridges.com/gunpla-tips-1/
ด.ช.เมฆฟ้า เพิ่มทวี ม.2/1 เลขที่ 8


ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น